myHealthWorld myHealthThink myHealthPeek myHealthMob License AgreementPrivacy PolicySupport Center
Product
myHealthFirst myHealthCare myHealthMob myHealthThink myHealthRoom Plug Tablet
Service
Smart Hospital Corporate Wellness Home Monitoring
Download
myHealthFirst APK
Contact
Login
แกงส้มผักรวม สูตรเด็ด เคล็ดลับความอร่อย

แกงส้มผักรวม สูตรเด็ด เคล็ดลับความอร่อย
         “แกงส้มผักรวม” เป็นอาหารไทยภาคกลาง มีรสเปรี้ยวนำ ที่เรียกแกงส้ม สันนิษฐานว่าเพราะน้ำแกงเป็นสีส้ม และใช้มะขามเปียกเป็นส่วนผสมให้มีรสเปรี้ยว เนื้อสัตว์ที่นิยมใส่ในแกงส้มคือ เนื้อปลา และกุ้งเป็นหลักและเราสามารถเติมผักนานาชนิดลงไปในแกงส้ม เช่น ผักบุ้ง ดอกแค มะละกอดิบ ยอดมะระ น้ำเต้าอ่อน แตงโมอ่อน ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว กวางตุ้ง ถั่วพู ผักกะเฉด เป็นต้น การที่ใส่ผักหลากหลายชนิด ซึ่งผักแต่ละชนิดก็มีสีสันที่แตกต่างกัน สีสันของผักทำให้แกงส้มน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น แกงส้มที่มีผักที่หลากหลาย เราเรียกว่า “แกงส้มผักรวม” หรือบางครั้งอาจเรียกว่าแกงส้มรวมมิตร

ส่วนผสม
         - ปลาช่อนนา 1 ตัว 10 ชิ้น
         - ปลาช่อนนา (สำหรับโขลกน้ำแกงรวมก้างและหนัง) 1 ชิ้นใหญ่
         - น้ำ (สำหรับต้มปลา) 4 ½ ถ้วยตวง
         - ถั่วฝักยาว (หั่นเป็นท่อน) 2 ¼ ถ้วยตวง
         - แตงโมอ่อน (ปอกเปลือกแข็งออก) 2 ¼ ถ้วยตวง
         - ผักกาดขาว (หั่นเป็นท่อน) 5 ¾ ถ้วยตวง
         - ดอกแค (เอาไส้ออก) 4 ถ้วยตวง
         - พริกแห้ง ½ ถ้วยตวง
         - หัวหอมแดง 4 หัว
         - กะปิ ¾ ช้อนชา
         - น้ำมะขามเปียก 219 กรัม
         - น้ำปลา 108 กรัม
         - น้ำตาลปี๊บ 3 ½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
         1. พริกแห้งเม็ดใหญ่ไม่ต้องแกะเม็ดออกเพื่อให้มีรสเผ็ด แช่น้ำพอนิ่ม นำมาโขลกกับหอมแดง กะปิ ให้ละเอียด
         2. นำปลาช่อนนามา 1 ตัว (น้ำหนักประมาณ 6-7 ขีด) ขอดเกล็ดขูดเมือกออกให้หมด หั่นเอาหัวออกผ่าครึ่งตัดครีบออก ผ่าพุงออกมาพร้อมกับส่วนที่เป็นเนื้อด้วยเพื่อจะได้ดูน่ารับประทานเมื่อเวลาต้มจะได้ไม่เละ (ในตำรับนี้ส่วนหัวและพุงปลาจะไม่นำมาใส่ในแกงส้มแต่สามารถนำไปทำเป็นอาหารอื่นเช่นต้มยำได้) หั่นปลาในแนวขวางเป็นชิ้น ๆ ให้ได้ประมาณ 10 ชิ้น ชิ้นละประมาณ 20 กรัม (ความหนา 1 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 เซนติเมตร) และเหลือส่วนปลายของลำตัวปลา 1 ชิ้นใหญ่ประมาณ 100-110 กรัมไว้สำหรับนำไปใช้โขลกกับเครื่องแกงเพื่อให้น้ำแกงมีรสหวานและข้นเล็กน้อย นำปลาทั้งหมดมาล้างด้วยเกลือเคล้าให้ทั่ว ล้างน้ำให้สะอาดเพื่อเอาเมือกปลาและเลือดที่ติดอยู่ออกให้หมดเพื่อทำให้ไม่เหม็นคาว ล้างเกลือและน้ำสัก 2 ครั้ง ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
         3. ใส่น้ำ 4 ½ ถ้วยตวง (ถ้วยตวงแก้ว) ลงในหม้อ ตั้งให้เดือด
         4. ใส่ปลา 1 ชิ้นใหญ่ ที่จะใช้สำหรับโขลกน้ำพริกแกง และชิ้นปลาทั้งหมด ต้มให้สุก(ใช้เวลา 4 นาที) ตักขึ้นใส่จาน
         5. นำปลาชิ้นใหญ่ที่ต้มมาลอกหนัง แกะเฉพาะเนื้อนำมาโขลกรวมกับน้ำพริกแกงที่เตรียมไว้ (ข้อ 1) พอเนื้อปลาเป็นปุย จากนั้นเติมน้ำเพิ่มลง นำน้ำต้มปลาที่เหลือมาเติมในหม้อที่ใช้ต้มปลาให้ได้ปริมาณเท่าครั้งแรก คือ 4 ½ ถ้วยตวง ตั้งให้เดือด ละลายน้ำพริกแกงที่โขลกสำเร็จลงในหม้อ ตั้งให้เดือด ปรุงรสด้วยรสน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ตามสัดส่วน นำผักทั้ง 4 อย่าง ใส่ในหม้อแกง พร้อมชิ้นปลาทั้งหมด ต้มประมาณ 5 นาที ด้วยไฟแรง ปิดไฟ ตักเสิร์ฟได้ ควรรับประทานขณะร้อนๆ         

         คุณค่าโภชนาการหลักๆ ก็จะได้วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร เพราะฉะนั้นแกงส้มเป็นอาหารชามหนึ่งที่สามารถรับประทานได้บ่อยและรับประทานได้ปริมาณมาก หากแกงส้มรสไม่เค็มจัดเกินไป แล้วเราไม่ได้มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูง

โพสต์เมื่อ : 14/06/2018
บทความที่คุณอาจสนใจ